เดวิด เจมส์ อดีตผู้รักษาประตูลิเวอร์พูลและทีมชาติอังกฤษ เขามีชื่อเต็มว่า เดวิด เบนจามิน เจมส์ เกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 1970 ที่เวลวีน การ์เด้น ซิตี้ ประเทศอังกฤษ เจมส์ เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษที่มีเชื้อสายจาไมกา
เจมส์ เริ่มเข้าสู่การฝึกฝนทักษะการเป็นนักฟุตบอลกับทีมเยาวชนของสโมสรวัตฟอร์ด ในปี 1986 เมื่อเขามีอายุ 16 ปี และเขาได้ทำการฝึกฝนการเป็นผู้รักษาประตูมืออาชีพอยู่ในทีมเยาวชนของวัตฟอร์ด อยู่ 2 ปี ด้วยความสามารถของเขา รวมถึงความว่องไวและรวดเร็วในการป้องกันประตูของเขา ทำให้ เจมส์ ในวัย 18 ปี ถูกผลักดันให้ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของวัตฟอร์ด ในปี 1988 ซึ่งในตอนนั้นถึงแม้ว่าวัตฟอร์ดจะเล่นอยู่ในดิวิชั่น 2 ซึ่งเป็นลีกรองของอังกฤษ แต่เจมส์ ก็ยังสามารถฉายแววอันโดดเด่นของตัวเองได้ในทุกเกมที่เขาได้ลงสนามไปป้องกันประตู และฟอร์มการเล่นของเขาก็ไปเตะตาของ แกรม ซูเนสส์ ผู้จัดการทีมของลิเวอร์พูลในตอนนั้น ที่ต้องการตัวเขาเข้ามาร่วมทีม เพื่อทดแทน บรูซ กร็อบเบลาร์ สุดยอดผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูลในเวลานั้นที่อายุเริ่มจะมากขึ้น
ในปี 1992 เจมส์ ย้ายมาเป็นให้กับลิเวอร์พูล เขาเป็นผู้รักษาประตูที่มีรูปร่างกำยำ มีส่วนสูงที่สูงถึง 193 เซนติเมตร และมีฟอร์มการเล่นที่สามารถพัฒนาต่อไปได้ เขามีปฏิกิริยาในการป้องกันลูกอันตรายได้อย่างรวดเร็ว เขาเป็นผู้รักษาประตูที่มีไหวพริบและการตัดสินใจที่รวดเร็ว และอ่านเกมขาด แต่การที่เขาย้ายเข้ามาสู่ทีมใหญ่อย่างลิเวอร์พูล ในช่วงแรกของการย้ายทีม ทำให้ เจมส์ ในวัย 22 ปี ต้องพยายามปรับตัวเองให้เข้ากับทีมต้นสังกัดเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เขายังต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่า เขามีความสามารถในการก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของลิเวอร์พูลได้ แต่ด้วยการที่เขาต้องเจอกับบดทดสอบอย่างหนักหน่วงในการเล่นให้กับทีมใหญ่อย่างลิเวอร์พูล ทำให้ในบางครั้งเขาก็ต้องหลุดลงไปเล่นตัวสำรองอยู่บ้าง
มาในยุคของรอย อีแวนส์ กุนซือคนใหม่ของลิเวอร์พูล เจมส์ สามารถกลับมายึดตำแหน่งผู้รักษาประตูมือหนึ่งได้อีกครั้ง และในฤดูกาล 1994-1995 เจมส์ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ลิเวอร์พูล สามารถคว้าแชมป์ลีก คัพ ในฤดูกาลนั้นมาได้สำเร็จ
ในฤดูกาล 1995-1996 เขาก็ยังเป็นกำลังสำคัญในกับลิเวอร์พูลอย่างต่อเนื่อง และสามารถช่วยทีมคว้ารองแชมป์ในศึกเอฟเอ คัพ ในฤดูกาล 1995-1996 มาได้อีกด้วย
โดยในระหว่างที่เขาอยู่ในลิเวอร์พูล เจมส์ ก็เป็นกำลังสำคัญในฐานะผู้รักษาประตูมือหนึ่งของลิเวอร์พูลอยู่เรื่อยมา โดยในยุคของเจมส์นั้น ลิเวอร์พูลมีดาวเตะมากมาย อย่างร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ,สตีฟ แม็คมานามาน ,เจมี เรดแนปป์ และไมเคิล โอเว่น
ในฤดูกาล 1996-1997 ฟอร์มการเล่นของเขาเริ่มมีจุดอ่อนให้ได้เห็น โดยเฉพาะในการป้องกันลูกกลางอากาศของศัตรูที่มีการผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง และมีส่วนทำให้ลิเวอร์พูลต้องเสียประตูอีกด้วย จนเจมส์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก อย่างในเกมที่ลิเวอร์พูล เปิดสนามพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาล ในเดือนเมษายน 1997 เจมส์ พลาดในลูกกลางอากาศจนทำให้ ลิเวอร์พูลต้องพบกับความพ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 1-3 และหลังจากนั้นเป็นต้นมา เจมส์ ก็ดูเหมือนขาดความมั่นใจในการเล่นไป จนทำให้ฟอร์มการป้องกันประตูของเขาตกลงไปอย่างมาก ภาพพจน์ของเจมส์ในสายตาแฟนบอลในเวลานั้นก็เริ่มเปลี่ยนไป
แต่ด้วยความเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ เจมส์ ก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาพยายามที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อที่จะกลับมายืนในจุดเดิมของตัวเองให้ได้มาโดยตลอด เจมส์ ค้าแข้งอยู่กับลิเวอร์พูลจนถึงในปี 1999 ลงสนามไปทั้งหมด 216 นัด
ในปี 1999 เขาย้ายไปร่วมทีมกับ แอสตัน วิลลา ซึ่งการย้ายไปยังทีมที่เล็กว่า ทำให้เขาลดความกดดันลงไปอย่างมาก เขาเล่นให้กับแอสตัน วิลลา อยู่จนถึง ปี 2001 โดยลงสนามไป 67 นัด
ในปี 2001 เขาย้ายไปเล่นให้กับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และอยู่ที่นั่น 3 ฤดูกาล ลงสนามไปทั้งหมด 91 นัด ก่อนที่จะย้ายไปยังแมนเชสเตอร์ ซี้ในปี 2004 เล่นอยู่ที่นั่นอีก 2 ปี ลงสนามไปทั้งหมด 93 นัด
ในช่วงท้ายของการค้าแข้ง เจมส์ นับว่าเป็นนักเตะที่ย้ายทีมบ่อยที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียว โดยในปี 2006 เจมส์ ย้ายไปเล่นให้กับ พอร์ทสมัธ และเขาก็สามารถช่วยทีมจนคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในฤดูกาล 2007-2008 มาได้สำเร็จ และ บริสตอล ซิตี้ ในปี 2010 ต่อมาในปี 2013 เล่นให้กับ ไอบีวี เวสต์มานเนียยาร์ และในปี 2014 เล่นให้กับ เกรละ บลาสเตอร์ ทีมฟุตบอลในอินเดีย ซึ่งเป็นทีมสุดท้ายในอาชีพการค้าแข้งของเขา
สำหรับผลงานในทีมชาติ เขาขึ้นมาเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ในปี 1997 ด้วยความเป็นมืออาชีพ และความมุ่งมั่นตั้งใจของเขา ทำให้เจมส์ได้รับโอกาสรับใช้ทีมชาติอังกฤษ ถึงแม้ว่าผลงานกับสโมสรของเขาจะไม่โดดเด่นมากนัก จนต่อมาเขาก็สามารถขึ้นมายึดตำแหน่งผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมชาติอังกฤษได้สำเร็จ และเป็นกำลังสำคัญในศึกยูโร 2004 เขาเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษจนถึงปี 2010 ลงสนามไปทั้งหมด 53 นัด
หลังจากที่อำลาการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เจมส์ ก็หันมาทำงานในด้านอื่นๆ ของวงการฟุตบอลอยู่เรื่อยๆ มาจนถึงปัจจุบัน โดยในปี 2014 เขาเป็นผู้จัดการทีมให้กับ เกรละ บลาสเตอร์ ทีมฟุตบอลในอินเดีย