สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 1996 ที่เมืองแลงคาสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันเขาเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตำแหน่งกองกลาง แม็คโทมิเนย์ มีความชื่นชอบการเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อเขามีอายุได้เพียง 5 ขวบ เขาก็เข้ารับการฝึกฝนทักษะการเล่นฟุตบอลที่ทีมเยาวชนของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาเข้ามาเรียนรู้และฝึกฝนการเป็นนักฟุตบอลอาชีพในยุคของสุดยอดกุนซืออย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ให้ความสำคัญกับนักเตะเยาวชนของสโมสรเป็นอย่างมาก
ในช่วงแรกที่ แม็คโทมิเนย์ เข้ามาร่วมทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้น เขาเล่นในตำแหน่งกองหน้า แต่เมื่อได้รับการฝึกฝนจึงได้มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งจนได้มาเล่นในตำแหน่งกองกลาง เนื่องจาก วอร์เรน จอยซ์ ที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมเยาวชนในขณะนั้น ได้มองเห็นว่า แม็คโทมิเนย์ น่าจะเหมาะกับการเล่นในตำแหน่งกองกลางมากกว่า
ในการเข้าไปร่วมทีมเยาวชนของ แม็คโทมิเนย์ เขามีความตั้งใจเป็นอย่างมาก เขามุ่งมั่น ขยันฝึกซ้อม ทำให้ฝีเท้าของเขาพัฒนาไปเป็นอย่างมาก รวมถึงร่างกายของเขาที่มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น จนทำให้ แม็คโทมิเนย์ เป็นนักเตะในทีมเยาวชนคนหนึ่งที่ถูกจับตามองจากทีมโค้ช จนในที่สุด ในปี 2013 เขาก็เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งในเวลานั้นเขามีอายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น
และภายหลังจากการเซ็นสัญญาแล้ว แม็คโทมิเนย์ ก็ได้รับโอกาสในการเข้ามาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งก็เป็นโอกาสดีของเขาที่ได้เรียนรู้และมีประสบการณ์การฝึกซ้อมกับนักเตะชั้นนำของโลก ซึ่งในตอนแรกที่เขาเซ็นสัญญา เขายังไม่ได้มีโอกาสลงสนามในทีมชุดใหญ่ เนื่องจากเขายังมีประสบการณ์ที่ไม่มากพอ และอายุยังน้อย
ถึงแม้ว่า แม็คโทมิเนย์ จะได้เซ็นสัญญาขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่มีโอกาสได้ลงสนามเป็นตัวจริง หรือแม้กระทั่งตัวสำรอง เนื่องจากเขาอายุยังน้อยและยังไม่มีประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลในระดับสูง ทำให้เขาถูกส่งไปเล่นในกับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีไปก่อน เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์การลงสนามของเขา และมันก็คือจุดเริ่มต้นของเขาอย่างแท้จริง
แม็คโทมิเนย์ เป็นนักเตะที่มีความขยัน สามารถวิ่งได้ตลอดทั้งเกม มีจังหวะการอ่านเกมและตัดบอลคู่แข่งได้อย่างยอดเยี่ยม และด้วยความโดดเด่นของเขา ทำให้ แม็คโทมิเนย์ กลายเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในทันที
ในฤดูกาล 2016-2017 เขาสามารถทำผลงานให้กับทีมได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการลงสนามไปทั้งหมด 21 นัด สามารถทำประตูได้ 3 ประตู เขากลายเป็นนักเตะที่ทีมขาดไม่ได้ในตอนนั้น และจากการโชว์ฝีเท้าอันยอดเยี่ยมของเขา ทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตอนนั้นเห็นแววการเล่นของเขา จนในที่สุดในปี 2017 แม็คโทมิเนย์ ก็ถูกเรียกตัวกลับขึ้นไปฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่อีกครั้ง และในครั้งนี้ แม็คโทมิเนย์ มีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมพรีเมียร์ลีก ในเกมที่เปิดบ้านพบกับ สวอนซี ซิตี้ ในเดือนเมษายน 2017 แต่ในเกมนี้ แม็คโทมิเนย์ ก็ยังไม่มีโอกาสลงสนาม
ในเดือนพฤษภาคม 2017 ความหวังของเขาก็เป็นจริง แม็คโทมิเนย์ ได้ลงสนามเป็นครั้งแรกให้กับทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมที่พบกับ อาร์เซนอล และได้ลงสนามเป็นครั้งที่สองในเกมที่พบกับ คริสตัล พาเลซ ในเดือนเดียวกัน
ฤดูกาล 2017-2018 จากการที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ชื่นชอบการเล่นของเขา ทำให้ แม็คโทมิเนย์ เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในทีมชุดใหญ่มากขึ้น และในฤดูกาลนี้ แม็คโทมิเนย์ ก็กลายเป็นนักเตะที่แฟนบอลต้องจดจำ ในเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับคู่ปรับตลอดกาล ลิเวอร์พูล ซึ่งในเกมดังกล่าว แม็คโทมิเนย์ เล่นได้อย่างโดดเด่นเป็นอย่างมาก เขาวิ่งไปทั่วสนาม และสามารถตัดเกมในแดนกลางของลิเวอร์พูล ได้บ่อยครั้ง และสามารถช่วยให้ทีมเอาชนะมาได้ 2-1 และในเกมนัดนี้เอง ที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาในทีมชุดใหญ่แบบถาวร
ฤดูกาล 2018-2019 แม็คโทมิเนย์ กลายมาเป็นกำลังหลักของทีม และได้ลงสนามอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเป็นยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมคนใหม่ ที่เข้ามาแทนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ถูกปลดออกไป แม็คโทมิเนย์ ก็ยังเป็นกำลังหลักของทีมอยู่ ในฤดูกาลนี้เขาก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลอีกครั้ง ในเกมที่พบกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย ในเกมนี้ แม็คโทมิเนย์ กลายเป็นกำลังสำคัญให้กับทีม เขาวิ่งตัดบอลตลอดทั้งเกม จนทำให้ทีมเอาชนะมาได้ 3-1 และผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ
ฤดูกาล 2019-2020 แม็คโทมิเนย์ ก็ยังมีโอกาสลงสนามได้อย่างต่อเนื่อง โดยกับคู่กับ เฟร็ด ทำผลงานได้ดีเลยทีเดียว ด้วยการจบฤดูกาลนั้นที่อันดับ 3 ของตารางพรีเมียร์ลีก สามารถคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ
ฤดูกาล 2020-2021 แม็คโทมิเนย์ ก็ยังสร้างผลงานอันโดดเด่น เขาสามารถพัฒนาฝีเท้าของตัวเองเพิ่มมากขึ้น เขามีความโดดเด่นที่เพิ่มขึ้นด้วยการสร้างความอันตรายในการเล่นเกมรุก และยังสามารถยิงประตูได้อีกด้วย ซึ่งเกมที่เขาสามารถสร้างผลงานก็คือ ในเกมที่พบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะถึง 6-2 นั้น แม็คโทมิเนย์ สามารถทำประตูได้ถึง 2 ประตูและ 1 แอสซิสต์ จน แม็คโทมิเนย์ คว้าตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ มาครอง
สำหรับผลงานในทีมชาติ แม็คโทมิเนย์ เป็นนักเตะที่ไม่เคยเล่นให้กับทีมชาติในชุดเยาวชนเลย เขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติสกอตแลนด์ชุดใหญ่ ในปี 2018 และลงสนามครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2018 ในเกมอุ่นเครื่อง ที่พบกับ คอสตาริก้า ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุ 21 ปี และเขาก็เล่นให้กับทีมชาติสกอตแลนด์มาตลอด และกลายเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมไปแล้ว